🧐 ค้นหา Passion ของลูก จากลายนิ้วมือ 👶🏻👦🏻
ยุคนี้คงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับ #การสแกนลายนิ้วมือเพื่อค้นหาความถนัด 🕵️♂️ ทางลัดช่วยค้นหา passion ด้านที่เราชอบและมีพรสวรรค์จากลายนิ้วมือของเรา...
ฟังดูคล้ายดูหมอดูทางวิทยาศาสตร์เลยค่ะ🔬 และเป็นความเชื่อส่วนบุคคลด้วยค่ะ
จริงไม่จริงเราต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองค่ะ
แม่บ้านอยากอธิบายคร่าวๆก่อนเลยว่า การวิเคราะห์ลายนิ้วมือ คือการสร้างทางลัดในการค้นพบตัวตน ความถนัด และศักยภาพที่แท้จริงตั้งแต่กำเนิด จากลายนิ้วมือที่มีการพัฒนาพร้อมกับเซลล์สมองตั้งแต่เริ่มเป็นทารกในครรภ์มารดาจนกระทั่งสมบูรณ์เต็มที่เมื่อครบ 19-20 สัปดาห์ จึงเปรียบเสมือนศูนย์บัญชาการทั้งหมดของความเป็นตัวตน ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิต
การวัดผลใช้การเก็บข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ และความสัมพันธ์เชิงสถิติ แล้วนำไปเปรียบเทียบ
แม่บ้านเคยได้ยินเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยลูกคนโตอยู่ในวัยหัดคลานแล้วก็ว่าแปลกดีเนอะ ใจก็อยากรู้อยากลอง
พอทราบราคาคร่าวๆที่ไทยราคาเกือบหลักหมื่น ค่ะ แพ๊งงง....เลยพับโครงการเก็บดีกว่า...
แล้วมาวันนึงไปเจอเพื่อนแม่บ้านชาวไต้หวันคุยว่าเราสนใจอยากรู้สแกนลายนิ้วมือที่นี่มีค่าใช้จ่ายเท่าไร เค้าเลยเล่าว่าลูกคนโตเค้าเคยสแกนลายนิ้วมือเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว..
เค้าว่า ผลรายงานตรงมากกกกค่ะ!
ตรงแม้กระทั้งรายงานนั้นบอกว่าลูกเค้าจะมีปัญหาด้านสายตา ก็มีจริงๆตอนวัยรุ่น แค่นี้ก็เชื่อแล้วหรอ????
ไม่ๆ ยังมีอีกผลรายงานนั้นบอกถึงความถนัด ความสนใจก็ตรงมากกับสาขาวิชาที่ลูกเค้าเลือกและสนใจเรียน ตอนนี้เรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว และ มีเรื่องอื่นเค้าก็ว่าตรงหลายเรื่องค่ะ
เพื่อนเล่าให้ฟังว่าลูกเค้าได้สแกนลายนิ้วมือตอนอายุ 4-5 ขวบกับทางโรงเรียนอนุบาลเอกชนมีจัดสแกนให้ซึ่งตอนนั้นมีค่าใช้จ่ายคนละ 1800 เหรีญไต้หวันเอง
ราคานี้ถูกมากก...เลยบอกให้เพื่อนจัดค่ะ!! จัดกลุ่มเด็กๆมาสแกนด้วยกัน ไม่ลองไม่รู้ค่ะ แม้ไม่ได้ราคาถูกแบบทางโรงเรียนเอกชนจัด ก็เป็นราคาที่เรารับได้ค่ะ ถือว่ายังถูกว่าที่ไทยมากก แม่อยากรู้....ก็ลองๆเสี่ยงดูซะหน่อย
การสแกนเราสามารถสแกนได้ตั้งแต่อายุ 1 ขวบขึ้นไป ผู้ใหญ่ก็สแกนได้นะ (เรายังอยากสแกนเลย สามีเบรคบอกเปลืองตังป่าวๆ 🙄)
จะเล่าให้ฟังค่ะแต่ก่อนชาวไต้หวันจะมีธรรมเนียมการเสี่ยงทายทำนายอาชีพจากการจับสิ่งของตอนเด็กครบ 1 ขวบ👇 แบบนี้ด้วยนะ
ยุคนี้คงต้องเพิ่มการสแกนนิ้วมือเพิ่มมาด้วยแล้วล่ะ‼️
แค่สแกนลายนิ้วมือก็รู้อาชีพเลย
ส่วนการแสดงผลจะวิเคราะห์เป็นรายงานเป็นเล่มๆให้พ่อแม่ไปปรับใช้เป็นไกด์ไลน์ในการเลี้ยงลูกได้
ที่ไต้หวันบางโรงเรียนอนุบาลเอกชนจัดให้เด็กสแกนลายนิ้วมือค่ะแบบโรงเรียนลูกเพื่อนเราไง เค้ามีมานานกว่า 16 ปีแล้ว😲
เราได้มาหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าคนที่คิดค้นการสแกนลายนิ้วมือคือศาสตราจารย์ชาวไต้หวัน ด้วยนะเออ
เฮ้ย.....นี่เรามาถูกที่เลยซินะ!!!
ขั้นตอนการสแกนมีดังนี้ค่ะ
การสแกนลายนิ้วมือจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บลายนิ้วมือ 🖐และนิ้วเท้า👣
แล้วนำผลข้อมูลไปวิเคราะห์กับซอฟแวร์ แล้วทำเล่มรายงานผลใช้เวลา 2 อาทิตย์
จากนั้นจะนัดเราเพื่อฟังรายงานผลการวิเคราะห์กับอาจารย์ โดยคนนึงจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ ของเราลูก 2 คนก็เกือบ 2 ชั่วโมงค่ะ ตอนฟังเค้าจะอัดเสียงพูดแล้วจะทำ CD ให้เรากลับไปฟังอีกหลายๆรอบ
ผลการวิเคราะห์เป็นภาษาจีน... เราอยากได้ภาษาอังกฤษเค้าไม่มี 🤦🏻♀️ ตอนฟังต้องขอร้องสามีไปฟังด้วย สามีก็ไม่ค่อยยากฟัง เพราะไม่เชื่อตั้งแต่แรกแล้ว และก็กลัวโดนสถาบันมาขายคอร์ส ขายของเสริมพัฒนาการ!
ถามว่ามีมาขายไหม คนอื่นมีโดนค่ะ ของเราไม่โดน หรีอเพราะผลสแกนหรือป่าวเลยมาขายไม่ได้ 🤣
มาต่อๆ ที่สามีเรายอมเพราะโดนเราร่ายมนต์เป่าหูไปว่าค่าใช้จ่ายให้ลูกลงคอร์สเรียนนู้นนี่บางทีแพงกว่าอีก สแกนฟันธงไปเลยว่าเค้าสนใจทางไหนค่อยพาไปเรียนดีกว่าไหมจ๊ะ? จะได้ไม่ต้องไปเร่งเรียนนู้นนี่
สามีก็เลยโอเครแต่ก็แอบเสียดายตัง
จากที่เราฟังผลรายงานของลูกเรา เราว่าเราเลี้ยงลูกเอง เราน่าจะรู้นิสัยลูกดีแล้วนะ ผลการสแกนรู้ยิ่งกว่าอีก!
จริงๆ นะ มา....จะเล่าให้ฟังค่ะ
บางอย่างเราเป็นแม่เราเลี้ยงเอง เรารู้ แต่บางทีเราอาจไม่แน่ใจในอุปนิสัย ความนึกคิด พฤติกรรมที่เค้าเป็น ผลรายงานนี้มาช่วยตรอกย้ำค่ะ ว่าใช่แน่ๆ หรือไม่ อย่าไปฝืนดัดนิสัย อย่าฝืนเอาชนะลูกเลยค่ะ เหนื่อยป่าวๆ เสียสุขภาพจิตด้วยค่ะ
ในรายงานสแกนนิ้วสามารถบอกนิสัยใจคอ คาเรคเตอร์ทั้งข้อดีข้อเสียของแต่ละคนได้ด้วยค่ะ พร้อมหาแนวทาง การสื่อสารให้ win-win รวมถึงมีวิธีแก้ไขและให้เราเตรียมรับมือ ซึ่งเราเอามาใช้ก็ได้ผลจริงๆค่ะ
อย่างเช่น น้องฉัตรเค้าจะเป็นเด็กที่มีความเป็นของตัวเองสูง ชอบอะไรยาก คบใครก็ยาก (คงได้แม่มา55) แต่ถ้าชอบอะไรแล้วจะชอบเลย ไม่ใช่คนโลเล (Strong willed child)
จากที่สแกนมืออ่านได้ว่าเค้าจริงๆแล้วเป็นเด็กมีเหตุผลถ้าจะให้เค้าเปลี่ยนใจต้องใช้พลังงานมากในการโน้มนาวใจ หรีอมีการทำข้อตกลงกันก่อนเค้าจะทำตาม ทางอาจารย์เลยเสนอให้ว่าถ้ามีปัญหาให้เราวางกฎไว้เค้าแต่แรกเลยแล้วจะทำตามโดยดีๆ
รายงานบอกว่าคนนี้จะต่อรองเราตลอด บอกกันตั้งแต่น้องฉัตรยังพูดไม่คล่องเลยนะ (เราสแกนเมื่อต้นปี) ตอนนี้พูดคล่อง เห็นหน้าใสๆแบบนี้นะช่างเจรจาต่อรอง ช่างย้อน ช่างติ ช่างเถียงปวดหมับเลยค่ะ💆🏻♀️
อาจารย์บอกอีกว่าเรียกเก็บของเล่นก็ยาก ไม่เก็บทันที ต้องแม่มาช่วยกันเก็บถึงจะยอมทำ และชอบวาดผนังบ้าน ช่างเลือก(เรื่องมาก)สุดๆ ก็จริงค่ะ คนพี่ตอนวัยเดียวกันไม่มีแบบนี้เลยค่ะ พูดง่ายกว่าเยอะ และผนังบ้านเพิ่งจะมาลงลายสักถาวรกันตอนคนเล็กจับปากกาได้นี่แหละ 😣
ผลสแกนบอกว่าคนเล็กตอนนี้ติดแม่ให้อุ้มให้กอด พอโตขึ้นจะไม่มีอาการขี้อ้อนแบบนี้เลยค่ะ โตขึ้นจะมีเหตุผล ไม่ดื้อหรือพูดยากเหมือนตอนเล็กๆ และเค้าไม่ให้เรากอดแล้ว จะมีแต่คนพี่ยังอยากให้เรากอดจนโตค่ะ
แม่บ้านเลยต้องยอมให้กินนมแม่ต่อไป จนกว่าเค้าจะเลิกไปเองค่ะ รู้สึกใจหายเมื่อลูกไม่ต้องการเราแล้ว 😓
คนโตพี่หนุกหนานเวลาเค้าทำผิดไม่ต้องดุ หรือโวยวายอะไร เค้าไม่ชอบให้ใครมาดุ เค้าจะคิดวิเคราะห์ได้เองก็จริงค่ะคนพี่เค้ามีเซนส์ไวมาก ถ้าเราไปดุเค้าจะไม่ยอมค่ะ และจะจบด้วยน้ำตา 😓
พอรู้แบบนี้ และทางอาจารย์มีเสนอแนวทางให้ด้วยเราก็จัดการลูกง่ายขึ้นค่ะ อะไรที่เค้าไม่ชอบ เราจะไม่กดดันเค้า
ผลสแกนนิ้วมือยังรู้ว่าลูกเราเป็นคนไม่ชอบอยู่เฉยๆ เพราะเค้าชอบเรียนรู้ และคิดตลอด อาจารย์แนะนำถ้าอันไหนกิจกรรมไหนดีให้ลูกทำไปเลย หรือเรียนรู้เยอะๆ และต้องที่เค้าชอบด้วยนะไม่งั้นไม่มี Passion
เค้าไม่ชอบการบังคับ
ก็จริงค่ะ เราเคยได้ยินลูกบ่นๆเหมือนกันนะเวลาอยู่บ้านเฉยๆ บ่นเสร็จแล้วก็ไปหาสิ่งที่ตัวเองชอบที่สุดมาทำอย่างเงียบๆ ห้ามใครกวนด้วย คนนี้ติสหน่อยๆตามผลสแกนนิ้วว่าเลยค่ะ
รายงานยังประเมินศักยภาพว่าในอนาคตลูกเราสามารถประกอบอาชีพทางด้านไหนดี เรียนทางไหนรุ่ง หรือควรส่งเสริมด้านไหนต่อ 👩🏻🍳🕵️♂️👨🏻⚕️👨🚀👨🏭
เหมือนเรามาอ่านลายมือดูเส้นวาสนากันเลยค่ะ 555
🧠อาจารย์ที่รายงานค่าผลรวม TRC ( Total Ridge Counter ค่าลายนิ้วมือที่เอามารวมกัน ยิ่งสูงยิ่งดี) แปลวัดเป็นค่าของสมองทั้งสองด้าน 😍
ผล TRC ลูกเรา ดีเลิศหมายความว่าลูกเรามีศักยภาพพัฒนาได้สูงกว่าคนอื่นค่ะ แต่ไม่ได้หมายถึงฉลาดกว่าคนอื่นนะจ๊ะ เราต้องส่งเสริมต้องกระตุ้นด้วยค่ะ
🧠ลายนิ้วด้านซ้ายสัมพันธ์กับสมองซีกขวาเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการและทักษะดนตรี
🧠ลายนิ้วด้านขวาสัมพันธ์กับตรรกะ ทักษะตัวเลข การใช้เหตุผล ทักษะวิทยศาสตร์ การวิเคราะห์การวางแผน การใช้ภาษาและการพูดสื่อสาร
👆วิเคราะห์หาองศาของฝ่ามือ ATD angle ยิ่งองศาแคบมากยิ่งดี ปกติคนเราจะอยู่ที่ 42-45 องศา ถ้าแคบกว่านี้มีศักยภาพสามารถทำงานที่มีความละเอียดอ่อน ความปราณีตได้ดีเช่น แพทย์ศัลยกรรมผ่าตัด หมอฟัน นักประดิษฐ์ หรืองานฝีมือ เป็นต้น
👥ความถนัดความสนใจลูกเราสองคนมีค่าต่างกันค่ะ แม้ว่าค่าผลรวมตัวเลขต่างกันแค่ 1 แต้มเอง แต่ความถนัดที่ดูจากลายมือทั้งสองคนแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ผลบอกค่า EQ ความฉลาดทางอารมณ์ ความสามารถในการจัดการอารมณ์ตัวเองได้ (อันนี้เราว่าเกี่ยวกับการเลี้ยงดูค่ะ) เค้าว่า IQ กะ EQ ลูกเราสองคนสมดุลกันค่ะ 😭 โอ๊ยย...ดีใจค่ะ
ในรายงานจะจัดอันดับให้เลยว่ามีทักษะด้านไหนเด่นจัดให้ 4 ด้านคือ
1.ด้านการคิดวิเคราะห์การแก้ปัญหาต่างๆ
2.ด้านการภาษา ความจำ
3.ด้านการฟังและดนตรี
4.ด้านการรับรู้ การสังเกต จินตนาการ
อย่างลูกทั้งสองมีหัวดีทางด้านคำนวณ และลูกคนนึงชอบคำนวณแต่ไม่ชอบอะไรที่ท่องจำ
ดังนั้นก็เตรียมใจไว้เลยถ้าเป็นพวกวิชาท่องจำถ้าลูกได้คะแนนไม่ดีก็อย่าซีเรียส ให้เตรียมการว่าจะช่วยอย่างไรได้บ้าง 😁
ผลรายงานเสนออาชีพที่ลูกเรามีศักยภาพไปได้ (ขอกล่าวรวมๆให้เดาเอาเองค่ะ ของคนไหน) คือศัลยแพทย์ หมอฟัน ครูอาจารย์ นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักวิเคราะห์ นักบริหารจัดการ สายเทคโนโลยี หรือไม่ก็เป็นวิศกรได้ค่ะ แต่ต้องไปส่งเสริมพัฒนากันต่อยอดกันเอาเองนะ
จะงมงายอย่างเดียวไม่ได้555 เราต้องกระตุ้นและส่งเสริมด้วยค่ะ (ขอย้ำอีกครั้ง) อย่าให้เป็นเพียงการขายฝันพ่อแม่ค่ะ เราต้องลงมือทำ!!!
ตอนนี้ของเราก็เริ่มเห็นแววแล้วค่ะ คุณแม่เริ่มวางเป้าหมายได้!!!
ผลสแกนบอกถึงสุขภาพได้ด้วย อันนี้เราว่าตรงมากค่ะ บอกเลย!!! ถูกทุกจุดค่ะ
หลังจากฟังผลวิเคราะห์เสร็จ อาจารย์พูดตบท้ายว่า “คุณน่าจะมีลูกอีกเยอะๆเลย ดูซิผลวิเคราะห์ลูกๆของคุณเยี่ยมมากเลยนะ” 😬
ส่วนสามีเราบอก อย่าเพิ่งไปเชื่อ❗️ เค้าพูดเว่อร์แบบนี้ทุกรายไหม?? จะขายของแน่ๆ บอกให้เราระวังอีก....สามีแอบกลัว(เสียตัง)😱
แต่ที่เค้าพูดมามันตรงเกือบ 90% เลยค่ะ คือที่ยังไม่แน่ใจคือบอกลูกเราถนัดซ้าย ลูกเราไม่โชว์ว่าถนัดซ้ายค่ะแต่เค้าเขียนหนังสือกลับด้านได้ 555 (เกี่ยวกับถนัดซ้ายไหม)
จากที่สอบถามผลการวิเคราะห์ของลูกเพื่อนๆคนอื่น มีค่า TRC แตกต่างกันอยู่ค่ะ คละกันไป บางคนอยู่ในระดับปกติทั่วไปเยอะ ความถนัดระดับสติปัญญาต่างกัน แนวทางที่ช่วยแก้ปัญหาก็ต่าง
เพื่อนๆเค้าบอกว่าที่ผลออกมาเค้าก็ว่าตรงมากกก....ซึ่งในใจเราก็คิดแย้งอยู่หลายข้อ ก็เด็กมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วล่ะ
พอมาฟังเพื่อนคนอื่นพูด...เออเนอะไม่เหมือน!
ผลรายงานที่ทางอาจารย์พูดวิเคราะห์ผลให้เราฟังมันภาษาที่สื่อค่อนข้างจะตีความหมายยาก ขนาดคนไต้หวันเองฟังยังงง ต้องกลับไปแปลอีกรอบ เจออาจารย์สื่อสารเก่งก็จะรู้เรื่องเลย ของเราต้องเสริมเรียกเพื่อนไต้หวันมาช่วยแปลจีนเป็นจีนอีกที 😅
ถามว่าสแกนดีไหม เราว่าการเลี้ยงดูเองอย่างใกล้ชิดสำคัญที่สุดค่ะ
พ่อแม่คอยสังเกตความถนัดของลูก เค้าทำอะไรแล้วรู้สึกตื่นเต้น ตาเป็นประกาย มีความกระตื้อรือร้นนั่นแหละคือสิ่งที่เค้ามี Passion หรือมีใจรักในด้านนั้นค่ะ
เราอาจสังเกตได้จากลูกเราเลือกทำอะไรในเวลาที่เค้าเบื่อๆ หรือไม่มีอะไรทำค่ะ
ปล่อยให้เด็กค้นพบตัวเองบ้างค่ะ เราไม่จำเป็นต้องจัดวางกิจกรรมให้ลูกแน่นจนไม่มีเวลาเล่นอิสระด้วยตัวเอง
และนิสัยบางอย่างของลูกได้มาจากดีเอ็นเอของแม่กับพ่อผสมกันเลยจริงๆค่ะ (ลองหลับตาดูแล้วนึกให้ดีๆ😂)
ถึงเราไม่ได้สแกนเราต้องเชื่อในตัวศักยภาพของลูกเราค่ะ หรีอถ้ามีเงินเหลือเฟือก็ลองดูคร่า (ของเราตังไม่เหลือหรอกค่ะแค่หักเงินเดือนแม่ไปเอง 😭)
หวังว่าบทความที่แชร์จะมีประโยชน์แก่ผู้ปกครองที่กำลังสนใจเรื่องนี้อยากจะลองพาลูกไปตรวจลายนิ้วมือค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น