แอบส่องธุรกิจร้านขนมเผือกในไต้หวัน

รูปภาพ
สวัสดีค่ะ  #แม่บ้านไต้หวันเล่าเรื่อง 💁🏻‍♀️โพสนี้ขอแวะมาดูธุระกิจร้านขนมเล็กๆแห่งนึงที่ไต้หวันกันบ้างค่ะ.....🥧🎂🍰 #ขนมเผือกแห่งเมืองจีหลุง หรือ Keelung สำหรับคนชอบเผือก!!! ร้านนี้ต้องไม่พลาดนะคะ😋 เค้าเอาเผือกธรรมดาๆ นี่แหละมาแปรรูป❗️ ซึ่งตอนแรกแม่บ้านก็ไม่ได้สนใจนะ พอดีมีคนรู้จักฝากแม่สามีซื้อ และก็เห็นว่าหลายคนในไต้หวันรู้จักร้านนี้กันเยอะ ก็เลยต้องแวะมาดูหน้าร้านซะหน่อย  มีคนไต้หวันบอกว่าอร่อยมากกกก..... แม่บ้านเคยกินแล้วก็อร่อยจริงๆค่ะ  ขนมเด็ดที่มีชื่อของร้านที่แนะนำคือ ลูกบอลเผือก และพุดดิ้งเผือก  ลูกบอลเผือก เราว่ามีรสชาติเหมือนเผือกกวนกับกะทิ หวานกำลังดีนัวๆ ทานเพลินไม่รู้ตัว และไม่เลี่ยนด้วยค่ะ ราคาแพคละ 50 NTเองนะ ส่วนขนมพุดดิ้งเผือก ทานแล้วคล้ายตะโก้เผือกใส่สาคู รสชาติก็ไม่หวานมากค่ะ เวลาทานต้องทานแบบแช่เย็นอร่อยมาก ชื่นใจค่ะ ราคาแพคละ 240 NT ที่แม่บ้านปลื้มในร้านนี้คือ....เค้าขายมานาน น๊านนานเป็นร้อยปี ตอนนี้เค้าก็ยังขายดีค่ะ  และแพคเกจเค้าก็ดูเก๋ๆค่ะ เรียบง่าย ดูดี ถือไปฝากไม่อายใคร และสะดวกรับประทานท

ค้นหา Passion ของลูกจากลายนิ้วมือ 👋




🧐 ค้นหา Passion ของลูก จากลายนิ้วมือ 👶🏻👦🏻

ยุคนี้คงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับ #การสแกนลายนิ้วมือเพื่อค้นหาความถนัด 🕵️‍♂️ ทางลัดช่วยค้นหา passion ด้านที่เราชอบและมีพรสวรรค์จากลายนิ้วมือของเรา...

ฟังดูคล้ายดูหมอดูทางวิทยาศาสตร์เลยค่ะ🔬 และเป็นความเชื่อส่วนบุคคลด้วยค่ะ

จริงไม่จริงเราต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองค่ะ 

แม่บ้านอยากอธิบายคร่าวๆก่อนเลยว่า การวิเคราะห์ลายนิ้วมือ  คือการสร้างทางลัดในการค้นพบตัวตน ความถนัด และศักยภาพที่แท้จริงตั้งแต่กำเนิด จากลายนิ้วมือที่มีการพัฒนาพร้อมกับเซลล์สมองตั้งแต่เริ่มเป็นทารกในครรภ์มารดาจนกระทั่งสมบูรณ์เต็มที่เมื่อครบ 19-20 สัปดาห์ จึงเปรียบเสมือนศูนย์บัญชาการทั้งหมดของความเป็นตัวตน ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิต 

การวัดผลใช้การเก็บข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ และความสัมพันธ์เชิงสถิติ แล้วนำไปเปรียบเทียบ



แม่บ้านเคยได้ยินเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยลูกคนโตอยู่ในวัยหัดคลานแล้วก็ว่าแปลกดีเนอะ ใจก็อยากรู้อยากลอง

พอทราบราคาคร่าวๆที่ไทยราคาเกือบหลักหมื่น ค่ะ แพ๊งงง....เลยพับโครงการเก็บดีกว่า...

แล้วมาวันนึงไปเจอเพื่อนแม่บ้านชาวไต้หวันคุยว่าเราสนใจอยากรู้สแกนลายนิ้วมือที่นี่มีค่าใช้จ่ายเท่าไร เค้าเลยเล่าว่าลูกคนโตเค้าเคยสแกนลายนิ้วมือเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว..

เค้าว่า ผลรายงานตรงมากกกกค่ะ!  

ตรงแม้กระทั้งรายงานนั้นบอกว่าลูกเค้าจะมีปัญหาด้านสายตา ก็มีจริงๆตอนวัยรุ่น แค่นี้ก็เชื่อแล้วหรอ????

ไม่ๆ ยังมีอีกผลรายงานนั้นบอกถึงความถนัด ความสนใจก็ตรงมากกับสาขาวิชาที่ลูกเค้าเลือกและสนใจเรียน ตอนนี้เรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว และ มีเรื่องอื่นเค้าก็ว่าตรงหลายเรื่องค่ะ 

เพื่อนเล่าให้ฟังว่าลูกเค้าได้สแกนลายนิ้วมือตอนอายุ 4-5 ขวบกับทางโรงเรียนอนุบาลเอกชนมีจัดสแกนให้ซึ่งตอนนั้นมีค่าใช้จ่ายคนละ 1800 เหรีญไต้หวันเอง

ราคานี้ถูกมากก...เลยบอกให้เพื่อนจัดค่ะ!!  จัดกลุ่มเด็กๆมาสแกนด้วยกัน ไม่ลองไม่รู้ค่ะ แม้ไม่ได้ราคาถูกแบบทางโรงเรียนเอกชนจัด ก็เป็นราคาที่เรารับได้ค่ะ  ถือว่ายังถูกว่าที่ไทยมากก แม่อยากรู้....ก็ลองๆเสี่ยงดูซะหน่อย

การสแกนเราสามารถสแกนได้ตั้งแต่อายุ 1 ขวบขึ้นไป ผู้ใหญ่ก็สแกนได้นะ (เรายังอยากสแกนเลย สามีเบรคบอกเปลืองตังป่าวๆ 🙄)

จะเล่าให้ฟังค่ะแต่ก่อนชาวไต้หวันจะมีธรรมเนียมการเสี่ยงทายทำนายอาชีพจากการจับสิ่งของตอนเด็กครบ 1 ขวบ👇 แบบนี้ด้วยนะ





ยุคนี้คงต้องเพิ่มการสแกนนิ้วมือเพิ่มมาด้วยแล้วล่ะ‼️

แค่สแกนลายนิ้วมือก็รู้อาชีพเลย 

ส่วนการแสดงผลจะวิเคราะห์เป็นรายงานเป็นเล่มๆให้พ่อแม่ไปปรับใช้เป็นไกด์ไลน์ในการเลี้ยงลูกได้



ที่ไต้หวันบางโรงเรียนอนุบาลเอกชนจัดให้เด็กสแกนลายนิ้วมือค่ะแบบโรงเรียนลูกเพื่อนเราไง เค้ามีมานานกว่า 16 ปีแล้ว😲

เราได้มาหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าคนที่คิดค้นการสแกนลายนิ้วมือคือศาสตราจารย์ชาวไต้หวัน ด้วยนะเออ

เฮ้ย.....นี่เรามาถูกที่เลยซินะ!!! 

ขั้นตอนการสแกนมีดังนี้ค่ะ 

การสแกนลายนิ้วมือจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บลายนิ้วมือ 🖐และนิ้วเท้า👣

แล้วนำผลข้อมูลไปวิเคราะห์กับซอฟแวร์ แล้วทำเล่มรายงานผลใช้เวลา 2 อาทิตย์

จากนั้นจะนัดเราเพื่อฟังรายงานผลการวิเคราะห์กับอาจารย์ โดยคนนึงจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ ของเราลูก 2 คนก็เกือบ 2 ชั่วโมงค่ะ ตอนฟังเค้าจะอัดเสียงพูดแล้วจะทำ CD ให้เรากลับไปฟังอีกหลายๆรอบ







ผลการวิเคราะห์เป็นภาษาจีน... เราอยากได้ภาษาอังกฤษเค้าไม่มี 🤦🏻‍♀️ ตอนฟังต้องขอร้องสามีไปฟังด้วย สามีก็ไม่ค่อยยากฟัง เพราะไม่เชื่อตั้งแต่แรกแล้ว และก็กลัวโดนสถาบันมาขายคอร์ส ขายของเสริมพัฒนาการ! 

ถามว่ามีมาขายไหม คนอื่นมีโดนค่ะ ของเราไม่โดน หรีอเพราะผลสแกนหรือป่าวเลยมาขายไม่ได้ 🤣

มาต่อๆ ที่สามีเรายอมเพราะโดนเราร่ายมนต์เป่าหูไปว่าค่าใช้จ่ายให้ลูกลงคอร์สเรียนนู้นนี่บางทีแพงกว่าอีก สแกนฟันธงไปเลยว่าเค้าสนใจทางไหนค่อยพาไปเรียนดีกว่าไหมจ๊ะ? จะได้ไม่ต้องไปเร่งเรียนนู้นนี่

สามีก็เลยโอเครแต่ก็แอบเสียดายตัง











จากที่เราฟังผลรายงานของลูกเรา เราว่าเราเลี้ยงลูกเอง เราน่าจะรู้นิสัยลูกดีแล้วนะ ผลการสแกนรู้ยิ่งกว่าอีก!

จริงๆ นะ มา....จะเล่าให้ฟังค่ะ

บางอย่างเราเป็นแม่เราเลี้ยงเอง เรารู้ แต่บางทีเราอาจไม่แน่ใจในอุปนิสัย ความนึกคิด พฤติกรรมที่เค้าเป็น ผลรายงานนี้มาช่วยตรอกย้ำค่ะ ว่าใช่แน่ๆ หรือไม่ อย่าไปฝืนดัดนิสัย อย่าฝืนเอาชนะลูกเลยค่ะ เหนื่อยป่าวๆ เสียสุขภาพจิตด้วยค่ะ 



ในรายงานสแกนนิ้วสามารถบอกนิสัยใจคอ คาเรคเตอร์ทั้งข้อดีข้อเสียของแต่ละคนได้ด้วยค่ะ พร้อมหาแนวทาง การสื่อสารให้ win-win รวมถึงมีวิธีแก้ไขและให้เราเตรียมรับมือ ซึ่งเราเอามาใช้ก็ได้ผลจริงๆค่ะ 

อย่างเช่น น้องฉัตรเค้าจะเป็นเด็กที่มีความเป็นของตัวเองสูง  ชอบอะไรยาก คบใครก็ยาก (คงได้แม่มา55) แต่ถ้าชอบอะไรแล้วจะชอบเลย ไม่ใช่คนโลเล (Strong willed child)

จากที่สแกนมืออ่านได้ว่าเค้าจริงๆแล้วเป็นเด็กมีเหตุผลถ้าจะให้เค้าเปลี่ยนใจต้องใช้พลังงานมากในการโน้มนาวใจ หรีอมีการทำข้อตกลงกันก่อนเค้าจะทำตาม ทางอาจารย์เลยเสนอให้ว่าถ้ามีปัญหาให้เราวางกฎไว้เค้าแต่แรกเลยแล้วจะทำตามโดยดีๆ

รายงานบอกว่าคนนี้จะต่อรองเราตลอด บอกกันตั้งแต่น้องฉัตรยังพูดไม่คล่องเลยนะ (เราสแกนเมื่อต้นปี) ตอนนี้พูดคล่อง เห็นหน้าใสๆแบบนี้นะช่างเจรจาต่อรอง ช่างย้อน ช่างติ ช่างเถียงปวดหมับเลยค่ะ💆🏻‍♀️ 

อาจารย์บอกอีกว่าเรียกเก็บของเล่นก็ยาก ไม่เก็บทันที ต้องแม่มาช่วยกันเก็บถึงจะยอมทำ และชอบวาดผนังบ้าน ช่างเลือก(เรื่องมาก)สุดๆ ก็จริงค่ะ คนพี่ตอนวัยเดียวกันไม่มีแบบนี้เลยค่ะ พูดง่ายกว่าเยอะ และผนังบ้านเพิ่งจะมาลงลายสักถาวรกันตอนคนเล็กจับปากกาได้นี่แหละ 😣 

ผลสแกนบอกว่าคนเล็กตอนนี้ติดแม่ให้อุ้มให้กอด พอโตขึ้นจะไม่มีอาการขี้อ้อนแบบนี้เลยค่ะ  โตขึ้นจะมีเหตุผล ไม่ดื้อหรือพูดยากเหมือนตอนเล็กๆ และเค้าไม่ให้เรากอดแล้ว จะมีแต่คนพี่ยังอยากให้เรากอดจนโตค่ะ 

แม่บ้านเลยต้องยอมให้กินนมแม่ต่อไป จนกว่าเค้าจะเลิกไปเองค่ะ รู้สึกใจหายเมื่อลูกไม่ต้องการเราแล้ว 😓

คนโตพี่หนุกหนานเวลาเค้าทำผิดไม่ต้องดุ หรือโวยวายอะไร เค้าไม่ชอบให้ใครมาดุ เค้าจะคิดวิเคราะห์ได้เองก็จริงค่ะคนพี่เค้ามีเซนส์ไวมาก ถ้าเราไปดุเค้าจะไม่ยอมค่ะ และจะจบด้วยน้ำตา 😓

พอรู้แบบนี้ และทางอาจารย์มีเสนอแนวทางให้ด้วยเราก็จัดการลูกง่ายขึ้นค่ะ อะไรที่เค้าไม่ชอบ เราจะไม่กดดันเค้า 

ผลสแกนนิ้วมือยังรู้ว่าลูกเราเป็นคนไม่ชอบอยู่เฉยๆ เพราะเค้าชอบเรียนรู้ และคิดตลอด  อาจารย์แนะนำถ้าอันไหนกิจกรรมไหนดีให้ลูกทำไปเลย หรือเรียนรู้เยอะๆ และต้องที่เค้าชอบด้วยนะไม่งั้นไม่มี Passion 
เค้าไม่ชอบการบังคับ

ก็จริงค่ะ  เราเคยได้ยินลูกบ่นๆเหมือนกันนะเวลาอยู่บ้านเฉยๆ บ่นเสร็จแล้วก็ไปหาสิ่งที่ตัวเองชอบที่สุดมาทำอย่างเงียบๆ ห้ามใครกวนด้วย คนนี้ติสหน่อยๆตามผลสแกนนิ้วว่าเลยค่ะ






รายงานยังประเมินศักยภาพว่าในอนาคตลูกเราสามารถประกอบอาชีพทางด้านไหนดี เรียนทางไหนรุ่ง หรือควรส่งเสริมด้านไหนต่อ 👩🏻‍🍳🕵️‍♂️👨🏻‍⚕️👨‍🚀👨‍🏭

เหมือนเรามาอ่านลายมือดูเส้นวาสนากันเลยค่ะ 555 

🧠อาจารย์ที่รายงานค่าผลรวม TRC ( Total Ridge Counter ค่าลายนิ้วมือที่เอามารวมกัน ยิ่งสูงยิ่งดี) แปลวัดเป็นค่าของสมองทั้งสองด้าน  😍


ผล TRC ลูกเรา ดีเลิศหมายความว่าลูกเรามีศักยภาพพัฒนาได้สูงกว่าคนอื่นค่ะ แต่ไม่ได้หมายถึงฉลาดกว่าคนอื่นนะจ๊ะ เราต้องส่งเสริมต้องกระตุ้นด้วยค่ะ

🧠ลายนิ้วด้านซ้ายสัมพันธ์กับสมองซีกขวาเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการและทักษะดนตรี

🧠ลายนิ้วด้านขวาสัมพันธ์กับตรรกะ ทักษะตัวเลข การใช้เหตุผล ทักษะวิทยศาสตร์ การวิเคราะห์การวางแผน การใช้ภาษาและการพูดสื่อสาร


👆วิเคราะห์หาองศาของฝ่ามือ ATD angle ยิ่งองศาแคบมากยิ่งดี ปกติคนเราจะอยู่ที่ 42-45 องศา ถ้าแคบกว่านี้มีศักยภาพสามารถทำงานที่มีความละเอียดอ่อน ความปราณีตได้ดีเช่น แพทย์ศัลยกรรมผ่าตัด หมอฟัน นักประดิษฐ์ หรืองานฝีมือ เป็นต้น 

👥ความถนัดความสนใจลูกเราสองคนมีค่าต่างกันค่ะ แม้ว่าค่าผลรวมตัวเลขต่างกันแค่ 1 แต้มเอง แต่ความถนัดที่ดูจากลายมือทั้งสองคนแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง 

ผลบอกค่า EQ ความฉลาดทางอารมณ์ ความสามารถในการจัดการอารมณ์ตัวเองได้ (อันนี้เราว่าเกี่ยวกับการเลี้ยงดูค่ะ) เค้าว่า IQ กะ EQ ลูกเราสองคนสมดุลกันค่ะ 😭 โอ๊ยย...ดีใจค่ะ

ในรายงานจะจัดอันดับให้เลยว่ามีทักษะด้านไหนเด่นจัดให้ 4 ด้านคือ
1.ด้านการคิดวิเคราะห์การแก้ปัญหาต่างๆ
2.ด้านการภาษา ความจำ
3.ด้านการฟังและดนตรี
4.ด้านการรับรู้ การสังเกต จินตนาการ

อย่างลูกทั้งสองมีหัวดีทางด้านคำนวณ และลูกคนนึงชอบคำนวณแต่ไม่ชอบอะไรที่ท่องจำ 

ดังนั้นก็เตรียมใจไว้เลยถ้าเป็นพวกวิชาท่องจำถ้าลูกได้คะแนนไม่ดีก็อย่าซีเรียส ให้เตรียมการว่าจะช่วยอย่างไรได้บ้าง 😁



ผลรายงานเสนออาชีพที่ลูกเรามีศักยภาพไปได้ (ขอกล่าวรวมๆให้เดาเอาเองค่ะ ของคนไหน) คือศัลยแพทย์ หมอฟัน ครูอาจารย์ นักวิจัย  นักวิทยาศาสตร์ นักวิเคราะห์ นักบริหารจัดการ สายเทคโนโลยี หรือไม่ก็เป็นวิศกรได้ค่ะ แต่ต้องไปส่งเสริมพัฒนากันต่อยอดกันเอาเองนะ 

จะงมงายอย่างเดียวไม่ได้555 เราต้องกระตุ้นและส่งเสริมด้วยค่ะ (ขอย้ำอีกครั้ง) อย่าให้เป็นเพียงการขายฝันพ่อแม่ค่ะ เราต้องลงมือทำ!!!

ตอนนี้ของเราก็เริ่มเห็นแววแล้วค่ะ คุณแม่เริ่มวางเป้าหมายได้!!! 

ผลสแกนบอกถึงสุขภาพได้ด้วย อันนี้เราว่าตรงมากค่ะ บอกเลย!!! ถูกทุกจุดค่ะ 

หลังจากฟังผลวิเคราะห์เสร็จ อาจารย์พูดตบท้ายว่า “คุณน่าจะมีลูกอีกเยอะๆเลย ดูซิผลวิเคราะห์ลูกๆของคุณเยี่ยมมากเลยนะ” 😬

ส่วนสามีเราบอก อย่าเพิ่งไปเชื่อ❗️ เค้าพูดเว่อร์แบบนี้ทุกรายไหม?? จะขายของแน่ๆ บอกให้เราระวังอีก....สามีแอบกลัว(เสียตัง)😱 

แต่ที่เค้าพูดมามันตรงเกือบ 90% เลยค่ะ คือที่ยังไม่แน่ใจคือบอกลูกเราถนัดซ้าย ลูกเราไม่โชว์ว่าถนัดซ้ายค่ะแต่เค้าเขียนหนังสือกลับด้านได้ 555 (เกี่ยวกับถนัดซ้ายไหม) 

จากที่สอบถามผลการวิเคราะห์ของลูกเพื่อนๆคนอื่น มีค่า TRC แตกต่างกันอยู่ค่ะ คละกันไป บางคนอยู่ในระดับปกติทั่วไปเยอะ  ความถนัดระดับสติปัญญาต่างกัน แนวทางที่ช่วยแก้ปัญหาก็ต่าง 

เพื่อนๆเค้าบอกว่าที่ผลออกมาเค้าก็ว่าตรงมากกก....ซึ่งในใจเราก็คิดแย้งอยู่หลายข้อ ก็เด็กมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วล่ะ

พอมาฟังเพื่อนคนอื่นพูด...เออเนอะไม่เหมือน!

ผลรายงานที่ทางอาจารย์พูดวิเคราะห์ผลให้เราฟังมันภาษาที่สื่อค่อนข้างจะตีความหมายยาก ขนาดคนไต้หวันเองฟังยังงง ต้องกลับไปแปลอีกรอบ เจออาจารย์สื่อสารเก่งก็จะรู้เรื่องเลย ของเราต้องเสริมเรียกเพื่อนไต้หวันมาช่วยแปลจีนเป็นจีนอีกที 😅



ถามว่าสแกนดีไหม  เราว่าการเลี้ยงดูเองอย่างใกล้ชิดสำคัญที่สุดค่ะ  

พ่อแม่คอยสังเกตความถนัดของลูก เค้าทำอะไรแล้วรู้สึกตื่นเต้น ตาเป็นประกาย มีความกระตื้อรือร้นนั่นแหละคือสิ่งที่เค้ามี Passion หรือมีใจรักในด้านนั้นค่ะ 

เราอาจสังเกตได้จากลูกเราเลือกทำอะไรในเวลาที่เค้าเบื่อๆ หรือไม่มีอะไรทำค่ะ 

ปล่อยให้เด็กค้นพบตัวเองบ้างค่ะ เราไม่จำเป็นต้องจัดวางกิจกรรมให้ลูกแน่นจนไม่มีเวลาเล่นอิสระด้วยตัวเอง

และนิสัยบางอย่างของลูกได้มาจากดีเอ็นเอของแม่กับพ่อผสมกันเลยจริงๆค่ะ (ลองหลับตาดูแล้วนึกให้ดีๆ😂)

ถึงเราไม่ได้สแกนเราต้องเชื่อในตัวศักยภาพของลูกเราค่ะ  หรีอถ้ามีเงินเหลือเฟือก็ลองดูคร่า (ของเราตังไม่เหลือหรอกค่ะแค่หักเงินเดือนแม่ไปเอง 😭) 

หวังว่าบทความที่แชร์จะมีประโยชน์แก่ผู้ปกครองที่กำลังสนใจเรื่องนี้อยากจะลองพาลูกไปตรวจลายนิ้วมือค่ะ

























ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แชร์ประสบการณ์ลูกเลิกแพมเพิสแบบชิวๆ

พาเด็กทำฟันไต้หวัน

พาลูกเที่ยวมาเก๊า ฮ่องกง ไม่เอาคาสิโน Day#2